วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

"กูเกิล"ส่งทัพใหญ่บุกไทย ตั้งสำนักงาน-ล่าSMEขายบนเว็บตีตลาดโลก




"กูเกิล" เปิดเกมรุกธุรกิจในไทยเต็มตัว วางแผนเปิดสำนักงานสาขา หลังตั้ง "อริยะ พนมยงค์" นั่งเก้าอี้ผู้จัดการประจำประเทศไทยคนแรก เปิดรับสมัครทีมงานอีกหลายตำแหน่ง ลุยธุรกิจในไทยเต็มตัว พร้อมแผนผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่โลกออนไลน์ เพื่อเป็นฐานธุรกิจ "โฆษณา ออนไลน์" ของกูเกิลในอนาคต



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การประกาศแต่งตั้งนายอริยะ พนมยงค์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย คนแรก เพื่อรับผิดชอบการขายและพัฒนาธุรกิจของกูเกิลในประเทศไทย ถือเป็นการประกาศเปิดเกมรุกตลาดของกูเกิลอย่างเป็นทางการ หลังจากใช้เวลาและกระบวนการคัดเลือกมานาน โดยนายอริยะมีประสบการณ์กว่า 14 ปีในวงการไอซีที และก่อนหน้านี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์คอนเวอร์เจนซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด

รายงานข่าวเปิดเผยว่า การแต่งตั้งนายอริยะ พนมยงค์ เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย จะมาพร้อมกับการตั้งสำนักงานกูเกิล เพื่อเข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทยเต็มตัว พร้อมกันนี้กูเกิลยังได้เปิดรับสมัครงานอีกหลายตำแหน่ง รวมทั้งผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกสถานที่ตั้งสำนักงาน

ที่ผ่านมาแม้ว่ากูเกิลจะมีทีมงาน คนไทยเข้ามาดำเนินงานกับคู่ค้าและพันธมิตรต่าง ๆ แต่พนักงานทุกคนอยู่ภายใต้กูเกิลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องโปรดักต์และการตลาด แต่ยังไม่ได้เน้นเรื่องธุรกิจ ดังนั้น หลังจากนี้กูเกิลก็จะมาเน้นเรื่องการขยายธุรกิจอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ถือว่าเป็นนโยบายของกูเกิลในการบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากเดิมใช้สิงคโปร์เป็นฐานธุรกิจทั้งหมด ขณะนี้มีแผนขยายการลงทุนในประเทศต่าง ๆ โดยเมื่อต้นปีได้เปิดสำนักงาน สาขาที่มาเลเซีย และประเทศไทยก็อยู่ในลำดับต่อไป หลังจาก "กูเกิล" ได้เข้ามาครอบครองตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้นในไทยเกือบ 100% แถมด้วยการรุกคืบการทำโฆษณาออนไลน์ "กูเกิลแอดเวิร์ดส์" จนทำใหไทยเป็นตลาดใหญ่ มีปริมาณผู้ใช้บริการโฆษณามากเป็นอันดับหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่นางสาวพรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย จากกูเกิลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา กูเกิลได้เข้ามาทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุกในประเทศไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการทำแคมเปญ Better Web, Better World เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่โลกออนไลน์ เป็นการทำภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีครั้งแรกในประเทศไทย และประเทศที่สองของโลก

เนื่องจากกูเกิลมองว่าไทยมีจำนวนคนใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอยู่ที่ 21-22 ล้านคน และมีประชากรที่ยังไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตอีกเป็นจำนวนมาก จึงต้องออกโฆษณาบนแมสมีเดีย เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมากูเกิล ได้ประกาศความร่วมมือกับสำนักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดแคมเปญ "ธุรกิจไทย Go Online" เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยเข้าสู่โลกออนไลน์ และปูทางสู่อีคอมเมิร์ซเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นรวมถึงเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดโลก ด้วยการเข้ามาสนับสนุนการสร้างเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ที่ทำได้รวดเร็ว ง่าย และฟรี โดยตั้งเป้าว่าภายใน 1 ปีจะดึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการให้ได้ 50,000 ราย

โครงการธุรกิจไทย Go Online ในประเทศไทย ถือเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับชื่อเว็บไซต์ .in.th หรือ .co.th ฟรีในปีแรก และให้เครดิตโฆษณาผ่านกูเกิลแอดเวิร์ดส์มูลค่า 3,000 บาท ทั้งบริการให้คำปรึกษาผ่านเว็บคลินิกตามหัวเมืองใหญ่ และบริการสนับสนุนจากศูนย์ประสานงานโครงการ 55 แห่งในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้มีเว็บไซต์เนื้อหาภาษาไทยมากขึ้น เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเข้าสู่โลกออนไลน์ อีกด้านหนึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของกูเกิล แอดเวิร์ดส์ตามไปด้วย

โดยกูเกิลมองว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการกว่า 3 ล้านราย และมีเพียง 5% เท่านั้นที่นำธุรกิจสู่โลกออนไลน์ กูเกิลจึงมองว่ายังมีโอกาสที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น

นางสาวพรทิพย์กล่าวว่า วันที่ 29-30 ก.ค.นี้ กูเกิลจะจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปครั้งแรกให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สอนการทำเว็บไซต์ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ธุรกิจไทย Go Online" เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยเข้าสู่โลกออนไลน์และปูทางสู่อีคอมเมิร์ซ โดยรวมกับธนาคาร กสิกรไทยที่เข้ามาสนับสนุนในเรื่องช่องทางการชำระเงินออนไลน์ และไปรษณีย์ไทยในเรื่องโลจิสติกส์

"เป็นเวิร์กช็อปสอนทำเว็บไซต์ให้กับผู้ประกอบการแบบตัวต่อตัว ปีนี้กูเกิลยังมีแผนเดินสายจัดกิจกรรมไปตามหัวเมืองหลัก ๆ ทั่วประเทศทุกเดือน โดยมีโปรแกรมไปจัดที่เชียงใหม่, ขอนแก่น, ชลบุรี และหาดใหญ่"

นางสาวพรทิพย์กล่าวว่า การสอนทำเว็บไซต์กูเกิลร่วมมือกับ ม.ราชภัฏ ซึ่งในกรุงเทพฯจะเป็น ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ฃอบรมให้นักศึกษาไปสอนให้ผู้ประกอบการที่เข้าโครงการอีกทอดหนึ่ง

ทั้งนี้บริการของ "กูเกิล" นั้นส่วนใหญ่จะเป็นบริการที่เปิดให้ผู้บริโภคใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นกูเกิลเสิร์ช, จีเมล์, กูเกิลแมป, กูเกิลโครม จนถึงกูเกิลพลัส แต่ตัวที่สร้างรายได้หลักกว่า 90% ของกูเกิลในเวลานี้ ก็คือ "กูเกิล แอดเวิร์ดส์" เป็นบริการโฆษณาซึ่งจะลิงก์กับกูเกิล เสิร์ช เพราะปัจจุบันการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลจากกูเกิล ซึ่งถ้าคำค้นตรงกับสินค้าและบริการของลูกค้า ข้อมูลเว็บไซต์ของลูกค้าก็จะโผล่ขึ้นมาอยู่เป็นลำดับแรก ๆ ของการค้นหา ซึ่งทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการ "กูเกิล แอดเวิร์ดส์" จะมีโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น ดังนั้นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของกูเกิลด้วย

ทั้งนี้ล่าสุด PayPal ได้เปิดเผยถึง ผลการศึกษา "ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตและผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย" ซึ่งจัดทำโดยบริษัทนีลเส็นฯระบุว่า ในปี 2553 ขนาดของตลาดการซื้อสินค้าออนไลน์ของประเทศไทย มีมูลค่า 1.47 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ประมาณ 2.5 ล้านคน ซึ่งสะท้อนว่า คนไทยมองเห็นประโยชน์มากมายจากการซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์รุกเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยมากขึ้น


ที่มา: http://www.prachachat.net วันที่ 23 ก.ค. 54 ข่าวไอซีที