ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้หน่วยความจำ (RAM) ในระบบปฏิบัติการ Windows 8 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรันแอพพลิเคชัน และไฟล์ต่างๆ ได้มากขึ้น ในขณะที่มีการใช้หน่วยความจำน้อยลง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้พีซีที่รัน Windows 7 จะสามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 8 ได้อย่างแน่นอน
ในส่วนของการจัดการหน่วยความจำระบบ RAM บน Windows 8 โอเอสใหม่ของ Microsoft ยังได้มีการเข้าไปจัดการ"เซอร์วิส"ต่างๆ ด้วย โดยเมื่อคลิกบนแท็บ Services ใน Task Manager ผู้ใช้จะเห็นโพรเซสต่างๆ ที่อยู่ในหน่วยความจำขณะนั้น เพื่อทำให้ Windows 8 มีประสิทธิภาพในการใช้หน่วยความจำได้ดียิ่งขึ้น Microsoft ได้จลดเซอร์วิสต่างๆ ออกไปถึง 13 รายการ พร้อมทั้งเปลี่ยนเซอร์วิสจำนวนหนึ่งจาก automatic เป็น manual และ Start on Demand (ต้องการใช้งานเมื่อไรค่อยเปิดเซอร์วิสนั้นๆ) ด้วยการจัดการลักษณะนี้จะทำให้โอเอสไม่กินหน่วยความจำมากตลอดเวลา
ผลจากการบริหารหน่วยความจำแบบใหม่จะทำให้ Windows 8 จองหน่วยความจำได้ฉลาดขึ้น โดยเฉพาะความพยายามที่จะทำให้เหลือหน่วยความจำว่างตลอดเวลา นั่นหมายความว่า ประสิทธิภาพโดยรวมของการทำงานของพีซีจะดีกว่าเดิม แม้พีซีที่ใช้รัน Windows 8 จะมีหน่วยความจำแค่ 1GB หรือ 2GB อย่างเช่น เน็ตบุ๊ค ซึ่งทางไมโครซอฟท์ได้เคยสาธิตการรัน Windows 8 บนเน็ตบุ๊คในงาน BUILD ที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบการใช้หน่วยความจำของ Windows 7 และ Windows 8 ภายใต้เงื่อนไขของระบบการทำงานที่เหมือนกัน พบว่า Windows 7 จะใช้หน่วยความจำระบบ 404MB ในขณะที่ Windows 8 ใช้เพียง 281MB หรือลดลงประมาณ 30% การลดการใช้หน่วยความจำ ยังทำให้ Windows 8 สามารถทำงานบนอุปกรณ์อย่าง "แท็บเล็ต" ตลอดจนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่มีหน่วยความจำไม่มากนักได้อีกด้วย ประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปด้วยก็คือ ยิ่ง RAM เยอะ พลังงานแบตฯ ก็ถูกใช้เยอะตามไปด้วย นั่นหมายความว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับ Windows 8 นอกจากจะไม่ต้องมีหน่วยความจำมากแล้ว มันยังทำให้อุปกรณ์ใช้งานแบตฯได้นานขึ้นอีกด้วย
ที่มา: ขอบคุณเว็บไซต์ในข่าว Windows 8 Blog 12 ตุลาคม 54