ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในอังกฤษระบุ ผู้ปกครองหนึ่งในสามเชื่อว่า เด็กๆกำลังตกอยู่ในภยันตรายจากบรรดาเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ส่วนผู้ปกครอง 4 ใน 5 เชื่อว่า มีโอกาสที่บุตรหลานของพวกเขาจะเสพติดเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ้คหรือทวิตเตอร์
อย่างไรก็ดี องค์กรโนมิเน็ตทรัสต์ ซึ่งได้ร่วมกับนายแพทย์ พอล โฮวาร์ด โจนส์ นักเคราะห์ผลวิจัยทางด้านอินเตอร์เน็ตและสังคม ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่ชื่อ "Impact of Digital Technologies on Human Wellbeing" (ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสุขภาวะของมนุษย์) ซึ่งระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆในทางประสาทวิทยาที่ได้บ่งชี้ว่า การใช้อินเตอร์เน็ตจะมีอิทธิพลทำให้เซลล์ประสาทในสมองเกิดการเปลี่ยนแปลงมากไปกว่าปัจจัยกระตุ้นทางสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
การศึกษาดังกล่าวยังพบด้วยว่า อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ที่ดีอันหนึ่ง และ การเรียนรู้ทุกประเภทต่างก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์สมองทั้งนั้น
อนึ่ง มีงานศึกษาอีกหลายชิ้นที่พบว่า การใช้อินเตอร์เน็ตและการรับข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตซึ่งมีความรวดเร็วนั้น ได้เปลี่ยนแปลงวิธีคิดของผู้คน ทั้งยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในใช้สมาธิอีกด้วย
อย่างไรก็ดี องค์กรทรัสต์กล่าวว่า "การเทศนาที่ผิดๆ" และการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตอาจทำให้ผู้คนละเลยประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตไปได้
"องค์กรทรัสต์เชื่อว่า อินเตอร์เน็ตจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยผลักดันสังคมไปในทางที่ดีขึ้น องค์กรของเราให้ทุนสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ การกลัวอินเตอร์เน็ตมากเกินไปนั้นก็อาจทำให้โอกาสในการยกระดับชีวิตผู้คนด้วยอินเตอร์เน็ตถูกละเลยไป" แอนนิก้า สมอลล์ ผู้อำนวยการองค์กรทรัสต์กล่าว
