วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตำรวจไซเบอร์เผยแนวโน้มทำผิดทางคอมพิวเตอร์พุ่ง


ตำรวจไซเบอร์เผยแนวโน้มทำผิดทางคอมพิวเตอร์พุ่ง พบเรื่องหมิ่นประมาทมากสุด ส่วนใหญ่เผยแพร่ภาพโป๊-เปลือย หวังรีดไถและประจานให้เสียหาย เปิดงานวิจัยชิ้นล่าสุดนักท่องเน็ตไม่รู้กฎหมายและช่องทางร้องเรียน

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม มีการจัดเสวนาหัวข้อ "รู้เท่าทันกฎหมาย ชนะภัยไซเบอร์" พร้อมกับนำเสนอผลงานวิจัยชิ้นล่าสุดเรื่อง "ภัยไซเบอร์ : การรับรู้และความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายและหน่วยงานที่รับผิดชอบ" จัดขึ้นที่อาคารสีบุญเรือง สีลม โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ผศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ คณะกรรมการบริหารนโยบายปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย และรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พ.ต.อ.สมพร แดงดี ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายวันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปดอทคอม







ผศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวถึงผลวิจัยภัยไซเบอร์ชิ้นล่าสุดว่า เก็บข้อมูลเมื่อเดือนเมษายน 2554 สำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,000 คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมุ่งศึกษาอาชญากรรมบนโลกอินเทอร์เน็ต พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ กลุ่มอายุ 15 - 25 ปี ใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง พฤติกรรมที่ผู้ตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์พบบ่อยมากที่สุด คือ ได้รับอีเมล์โฆษณาขายสินค้าหรือชักชวนทำงานจากบุคคลที่ไม่รู้จัก 49.8% รองลงมาคือ ได้รับไวรัสทางอีเมล์หรือเปิดเว็บไซต์ 44.9% ถูกใช้คำพูดไม่สุภาพ หมิ่นประมาททางอีเมล์ เว็บบอร์ดหรือสังคมออนไลน์ 19.1% ถูกตัดต่อภาพส่วนตัวแล้วนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ 8%


"ส่วนการดำเนินการเพื่อเอาผิดกลับพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่ดำเนินการใด ๆ กับผู้กระทำผิดเลย 32.4% รองลงมาคือ เรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสังคมออนไลน์และผู้ดูแลเว็บไซต์ 15.1% ซึ่งเป็นทางเลือกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรู้สึกเข้าถึงได้มากกว่า ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีมีจำนวนน้อยมาก เพราะมีผู้ตอบว่าไม่รู้จะต้องร้องเรียนที่ไหน กับใคร จำนวน 51.1% และยังไม่ทราบมาก่อนว่ามี พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จำนวน 35% นอกจากนี้ มีผู้ตอบว่ารู้ว่ามีกฎหมาย แต่ไม่เคยอ่าน จำนวน 35.9%" ผศ.ดร.เสาวณีย์เผย







ด้าน พ.ต.อ.สมพร แดงดี ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวว่า ปอท.ตั้งขึ้นมา 2 ปี มีสถิติรับเรื่องร้องทุกข์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 พบว่า มีจำนวนการกระทำผิดความผิดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2553 มีสถิติรับแจ้ง 285 เรื่อง ส่วนปีนี้ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน มีจำนวน 191 เรื่อง ประเภทความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 คือ การหมิ่นประมาทด้วยการเขียนข้อความและลงรูปภาพให้ผู้อื่นเสียหาย มีตัวเลขประมาณ 30% รวมทั้งการหมิ่นประมาทสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการหลอกลวงและฉ้อโกง โดย ปอท.ดำเนินคดี 70 เรื่อง ขณะนี้ได้ลงโทษผู้กระทำผิดแล้วจำนวน 50 เรื่อง ส่วนที่เหลือส่งคดีไปยังตำรวจท้องที่รับผิดชอบ


"เหยื่อที่ถูกกระทำความผิดบนโลกไซเบอร์ที่น่าเป็นห่วงมาก คือ กลุ่มผู้ใหญ่มากกว่าเด็กและเยาวชน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เนื่องจากการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างมากเท่ากับการกระทำของผู้ใหญ่ ซึ่งมีการหมิ่นประมาทด้วยการนำภาพโป๊-เปลือยของผู้เสียหายไปประจานต่อสาธารณะ และยังมีการฉ้อโกงด้วยการหลอกลวงขายสินค้า ซึ่งการซื้อขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตมีโอกาสสูงมากที่จะถูกหลอก" พ.ต.อ.สมพรเผย


ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวว่า ก่อนที่จะส่งอีเมล์ของตนเองหรือเขียนข้อความใด ๆ ลงทางเว็บไซต์ ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบให้ดีว่าจะสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น สร้างความตื่นตระหนกแก่สังคม หรือสร้างความเสียหายต่อศีลธรรมอันดีหรือไม่ ขอให้หลีกเลี่ยง ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมาย หากพบเห็นการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์สามารถแจ้งได้ทาง www.tcsd.police.com








ด้านนายวันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กล่าวว่า ขณะนี้การหมิ่นประมาททางอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการหลอกลวงขายสินค้า และการหลอกรับบริจาคช่วยเหลือสุนัขและแมว โดยเปิดบัญชีรับบริจาคเงินจากผู้ใจบุญ พวกมิจฉาชีพอาศัยช่องทางนี้ในการฉ้อโกงประชาชน ขอให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตต้องตัดสินใจให้รอบคอบก่อนส่งต่อหรือเผยแพร่ให้บุคคลอื่น
Author Articles
Latest Articles
Most Read Articles